"เรื่องราวดีๆ ต้องบอกต่อ ชื่นชมพขร.เบรกรถลงไปอุ้มคุณยายข้ามสะพาน 100 ศพ รับแจ้งจากแขวงรถพ่วงชุมพร รฟท. จากเหตุการณ์ช่วงบ่าย เมื่อวานนี้( 5 พ.ค.) นายประสิทธิ์ พขร.แขวงรถพ่วงชุมพร ได้ช่วยคุณยายหนึ่งขณะกำลังจะเดินข้ามสะพานทางรถไฟ โดยเล่าว่าตนเองได้ขับรถขบวนโดยสารที่ 43 (กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ฯ) รับช่วงต่อที่สถานีปะทิว-ชุมพร ขับรถออกมาได้ไม่ไกลมาก ก็สังเกตเห็นคุณยายท่านหนึ่งเดินอยู่บนทางรถไฟแถวสะพาน 100 ศพ ตนเองจึงรีบตัดสินใจเบรกรถเพื่อหยุด และลงไปช่วยอุ้มคุณยายข้ามไปอีกฝั่ง สวพ.91 ขอแสดงความชื่นชมในน้ำใจ ของพขร.ท่านนี้ (ภาพ/ ปุย รถไฟเอฟซี)"
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 พ.ค.) นายประสิทธิ์ โมฬี พนักงานขับรถไฟคนดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนขับรถสปรินเตอร์ เส้นทางลงใต้จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสุราษฎร์ธานี หลังจากที่จอดรถส่งและรับผู้โดยสารขึ้นมาบนขบวน บริเวณสถานีปะทิว จ.ชุมพร เสร็จ ได้ขับรถออกมาจากสถานีอย่างช้าๆ และวิ่งรถมาได้ประมาณ 150 เมตร ผ่านทางโค้ง มาเจอกับสะพาน 100 ศพ ก็สังเกตเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่บริเวณกลางราง จึงตัดสินใจลดความเร็วลงและแตะห้ามล้อเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าเป็นคนก็ตัดสินใจหยุดรถทันที ซึ่งผู้โดยสารไม่ได้รับอันตราย เนื่องจากได้แตะเบรกและลดความเร็วมาเป็นระยะแล้ว
หลังจากฝากรถให้ผู้ช่วยดูแล ตนก็ได้เดินไปหาคุณยายวัย 80 ปี ว่าจะไปไหน และทำไมมานั่งอยู่ที่นี่ คุณยายก็บอกว่าจะข้ามไปอีกฝั่ง ตนพูดกับคุณยายว่ารู้ไหมว่าเกือบจะถูกรถไฟชนแล้ว คุณยายก็บอกว่าไม่รู้ ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เมื่อชี้ไปที่รถไฟ ยายหันมาเห็นก็ทำท่าตกใจกลัว ตัวสั่น เหงื่อออกท่วมตัวเลย ตนจึงตัดสินใจอุ้มยายเดินข้ามสะพานไปประมาณ 300 เมตร เอายายไปส่งที่ร่มไม้อีกฝั่งของสะพานตามที่แกบอก พอวางยายลง ยายก็ยกมือไหว้ท่วมหัว และบอกว่าขอบใจ คนขับรถไฟที่ไม่ขับชนยาย
หลังจากที่ตนเดินกลับไปขึ้นรถ ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างชาติก็ช่วยกันปรบมือชื่นชมการกระทำของตนครั้งนี้ และก็เดินมาพูดคุยที่ห้องคนขับ พร้อมบอกว่าดีแล้วที่จอดรถลงไปช่วยคุณยาย แม้จะเสียเวลาไป 30 นาที แต่ก็ถือว่าได้ช่วยคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรกับกระแสชื่นชมในโลกออนไลน์ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ดีใจและภูมิใจ ที่สามารถทำให้ภาพลักษณ์การรถไฟแห่งประเทศไทยดีขึ้น ปัจจุบันตนอายุ 49 ปี และทำงานที่รฟท.มานานกว่า 29 ปี ส่วนกระแสในโลกออนไลน์นั้น ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้เล่นโซเชียลฯ เพิ่งรู้จากคนรู้จัก สิ่งที่ทำไปก็ทำเพราะอยากช่วยเหลือคุณยาย ไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนอะไร
ทีมา => http://news.sanook.com/1792466/