จากกรณีที่มีภาพวีดีโอออกมาแพร่หลายทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค มีหญิงสาวถูกแอบถ่ายขณะทำพิธีอาบน้ำมนต์ และมีผู้ให้เบาะแสร้องเรียนมายังตำรวจภูธรภาค 5 ว่าที่วัดใหม่ห้วยทราย ก็มีการทำพิธีในลักษณะนี้ เกรงว่าจะมีการแอบถ่าย ตำรวจจึงสืบสวนและขอหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นกุฏิของพระควรคิด กันโตภาโส หรือพระอาจารย์หนาน พระลูกวัดใหม่ห้วยทราย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่ แต่ไม่พบพระสมคิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบห้องน้ำภายในกุฏิ ทั้งห้องน้ำด้านนอกและห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอน ซึ่งมีผนังติดกัน โดยพบว่ามีร่องรอยของการฉาบปูนและทาสีใหม่ที่ผนังทั้ง 2 ด้าน เจ้าหน้าที่ได้บันทึกหลักฐานต่างๆ เอาไว้ เพื่อนำไปตรวจสอบ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 พ.ค. พระควรคิด กันโตภาโส อายุ 54 ปี หรือพระอาจารย์หนาน เดินทางจากจังหวัดลำปาง กลับมายังวัดใหม่ห้วยทราย และพาสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบห้องน้ำภายในกุฏิ โดยนำกระจกเงาที่ถอดออกจากในห้องน้ำ มาแสดงการติดตั้งใหม่ภายในห้องน้ำ จุดที่มีการฉาบปูนทาสีใหม่ โดยมีคณะศรัทธาของพระหนาน บางส่วนมาให้กำลังใจ
พระควรคิด เปิดเผยว่า อาตมาเป็นผู้ทุบผนังปูนเองเมื่อ 2 วันก่อน เพราะโมโหถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นตอของภาพวีดีโอในทำพิธีอาบน้ำมนต์ จนทำให้ผนังเป็นรูทะลุไปยังห้องน้ำในห้องนอนของอาตามเอง แต่เมื่อลูกศิษย์มาห้ามจึงได้หยุด และลูกศิษย์ก็ได้นำปูนมาฉาบปิดรูผนังเอาไว้ ส่วนรูตะปูทั้ง 8 แห่งที่พบบนผนังห้องน้ำนั้น ก็เป็นการเจาะเพื่อนำกระจกเงามาวาง ไม่ได้เจาะทะลุมาอีกฝั่งหนึ่งแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาข่าวอย่างละเอียด และตรวจสอบข้อเท็จจริง และอาตมาก็พร้อมที่จะชี้แจงหากเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
พระควรคิด กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วอาตมาสึกออกไปแล้วไปทำไร่ ทำสวนก็จบ แต่ว่าที่กลับมาวัดอาตมา เป็นห่วงท่านพระครูเป็งเจ้าอาวาส เพราะกลัวท่านได้รับความเสียหาย เป็นห่วงทางกำนันฯ อาตมา เป็นห่วงเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ของเรา ดอยสุเทพเป็นที่ตั้งอันดับ 1 ครูบาศรีวิชัยเป็นที่พึ่ง เมื่อมีการลงข่าวโครมๆ แบบนี้พุทธศาสนาของเชียงใหม่ของดอยสุเทพ และวัดใหม่ห้วยทราย เสียหายไปหมดแล้วนักท่องเที่ยวที่ไหนจะมาเที่ยว ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตรวจสอบให้ดี คดีโจรผู้ร้ายขึ้นบ้านลักทรัพย์ 1 แสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจถี่ยิบ รอยนิ้วมือ ลงทุนในการตรวจสอบเต็มที่ แต่กับอาตมาแค่ไขควงด้ามเดียว ทำไมไม่เอามาตรวจสอบที่รูกำแพง แทงเข้าไปดูซิว่ามันทะลุกันหรือไม่ แต่นี่เปล่าเลย พอเจ้าหน้าที่มาถึงก็ให้นักข่าวดำเนินการถ่ายภาพ แล้วก็ตั้งข้อสันนิษฐาน สงสัยจะใช่ แล้วก็ลงข่าวไป ทำให้พุทธศาสนาเสียหายไปหมด
“ทุกวันนี้พระสงฆ์สามเณร ที่ออกบิณฑบาต ประชาชนเขาแทบหมดศรัทธากันอยู่แล้ว พระสงฆ์สามเณรแทบจะไม่มีกินอยู่แล้ว ทำลายศาสนาเก่งกันเหลือเกิน ทำไมไม่ช่วยกันส่งเสริมศาสนาลงข่าวให้คนมาทำบุญที่วัดกันเยอะๆ อย่างนี้ซิ” พระควรคิด กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า เรื่องที่ พระควรคิดออกมาชี้แจง และพาผู้สื่อข่าวตรวจสอบในห้องน้ำ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบอีกครั้งนั้น ขณะนี้ขอให้ทางตำรวจดำเนินการตรวจสอบฮาร์ดดิสที่ตรวจยึดมาได้ รวมทั้งตรวจสอบรถยนต์ของพระสมคิดให้เสร็จก่อน และที่พระควรคิดบอกว่า อยากให้ตำรวจมาตรวจสอบอีกครั้งนั้น ตนจะได้ให้ทางตำรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ ไปขอตรวจสอบโน๊ตบุ๊กของพระสมคิด หรือว่าจะนำมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบก็จะเป็นการดี แสดงความบริสุทธื์ ที่สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ทางพระควรคิด จะออกมาชี้แจงถึงความบริสุทธิ์ ทางตำรวจนั้นก็ดำเนินว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
การเดินทางไปตรวจค้นและขอหมายศาลในการเข้าค้นนั้น เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา เขาให้การกับทางตำรวจว่าเขาเคยไปให้พระควรคิด ทำพิธีอาบน้ำมนต์ให้กับเขาและลูกสาว และเขาเห็นข่าวที่ทางตำรวจภาค 5 ออกมาเตือนเรื่องการแอบถ่ายคลิป เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเรื่องของการอาบน้ำมนต์ เรากลัวจึงได้แจ้งเบาะแสให้กับทางตำรวจ ขอให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบพระควรคิด เพราะเขากลัว และพฤติกรรมดังกล่าวของพระควรคิด ก็เป็นที่น่าสงสัยและสอดคล้องกับพฤติกรรมของการแอบถ่าย อาบน้ำมนต์ ทางตำรวจจึงได้ดำเนินการขอหมายค้น จนศาลได้ออกหมายค้นให้และตำรวจเองก็ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบ หากพระควรคิด คิดว่าตนเองบริสุทธิ์และไม่ได้ทำ จะกลัวอะไร ก็แสดงความบริสุทธิ์แล้วออกมาชี้แจง และมาให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติมอีกก็จะดีมาก พร้อมทั้งเอาโน๊คบุ๊กมาด้วย
ทีมา => http://www.khaosod.co.th/