Breaking News
Loading...

Info Post



ตำรวจคุมตัวสอบ สาวประเภทสอง หลอกตุ๋น-แสดงละครสมจริง นึกว่าถูกปล้น ทำทีน่าสงสารขอเงินชาวบ้าน เสียไปหลายร้อย เหยื่อล่าสุดเป็นอดีตทหาร

เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) พ.ต.อ.เมฒาวิศ ประดิษฐ์ผล ผกก.สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารเรือชุดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ฐานทัพเรือสัตหีบ ระบุว่า สามารถควบคุมตัวสาวประเภทสอง ทราบชื่อ นายมณเฑียร อายุ 20 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ก่อเหตุสร้างเรื่องอ้างว่าถูกปล้นชิงทรัพย์ในห้องน้ำในกรรมสรรพวุธทหารเรือ

จากการสอบถามเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทหารเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ นายมณเฑียร เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา บริเวณหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน ใช้วิธีหลอกลวงชาวบ้าน อ้างว่าถูกชายขี่รถจักรยานยนต์มาปล้นทรัพย์และจับมัดมือมัดเท้า ระบุว่าตัวเองชื่อ นางสาวชฎาพร ไม่มีเงินกลับบ้าน ชาวบ้านจึงเห็นใจให้เงินช่วย 600 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา นายมณเฑียร ได้ก่อเหตุลักษณะเดิมอีกครั้ง บริเวณทางขึ้นเขาแหลมปู่เจ้า ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยทำการแสดงและสร้างเหตุการณ์ได้อย่างสมจริง จนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหารหลงเชื่อ ให้เงินช่วยเหลือไป 600 บาท ซึ่งทุกครั้ง นายมณเฑียร จะบอกว่าอยากกลับบ้าน ไม่ติดใจเอาความใดๆ

กระทั่งล่าสุด จ่าเอกมีชัย อายุ 42 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนร้ายปล้นชิงทรัพย์ นายมณเฑียร ได้ออกมาชี้แจงและยืนยันว่าถูกกล่าวหาและแอบอ้าง จ่าเอกมีชัย เล่าว่า เมื่อวันเกิดเหตุ ตนขี่รถขึ้นมาสักการะศาลกรมแหลงชุมพร บริเวณแหลมปู่เจ้า

เมื่อมาถึงก็พบ นายมณเฑียร บอกว่าไม่มีเงินกลับบ้าน ตนรู้สึกสงสาร จึงอาสาขี่รถลงมาส่งโดยไม่เก็บเงิน ก่อนที่เวลาต่อมา มีเจ้าหน้าที่ทหารติดตามตัวไปสอบถาม เพราะ นายมณเฑียร อ้างว่า ตนจับมัดมือมัดเท้าและปล้นชิงทรัพย์ไป 5,000 บาท พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา

จนในที่สุด นายมณเฑียร ถูกควบคุมตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง ก่อนจะรับสารภาพและอ้างว่า เคยเป็นครูสอนมวยชาวต่างชาติที่เมืองพัทยา ได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท แต่มาพบรักกับวินรถจักรยานยนต์และมีความสัมพันธ์กัน ก่อนจะถูกหลอกให้กดเงินและชิงเงินไป 9,000 บาท ตนจึงพยายามออกหาตัวชายคนดังกล่าว เพื่อเอาทรัพย์สินคืน แต่ก็ไม่เจอ จึงได้ออกอุบายหลอกเงินชาวบ้านด้วยวิธีดังกล่าว




อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายมณเฑียร ไปลงบันทึกประจำวันและเก็บฐานข้อมูล ขณะที่ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความใดๆ จึงปล่อยตัวไป เจ้าหน้าที่จึงได้ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ซึ่งกรณีของ นายมณเฑียร สังเกตจากลักษณะการตอบคำถามคล้ายผู้ป่วยโรคประสาท อีกทั้งยังพบประวัติก่อเหตุคล้ายๆ กันในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อ 3-4 ปีก่อนด้วย






ทีมา => http://news.sanook.com/1889814/