รายงานข่าวจากมหาสารคามแจ้งว่า จากกรณีที่ น.ส.เกศรินทร์ ไชยโชค หรือน้องฟ้า อายุ 20 ปี รองอันดับ 3 มิสอันเซ็นเซอร์ นิวส์ ไทยแลนด์ พร้อมด้วย นายสมชาย หรือ เดซี่ เล็กน้อย ผู้อำนวยการกองประกวดมิสอันเซ็นเซอร์ นิวส์ ไทยแลนด์ ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อให้ช่วยตามหา นายประมูล ไชยโชค อายุ 48 ปี ผู้เป็นบิดา ซึ่งไม่ได้พบกันกว่า 15 ปี สาหตุจากพ่อได้หย่าร้างกับมารดาตั้งแต่น้องฟ้าอายุได้เพียง 5 ขวบ ต่อมารับทราบจากญาติว่า พ่อมีชีวิตที่ค่อนข้าวลำบากใช้ชีวิตเป็นคนเร่รอน มีอาชีพตระเวนเก็บของเก่าขาย รวมทั้งขอทานตามตลาดนัดต่างๆ ทั่วภาคอีสานหาเงินประทังชีวิต ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ได้เบาะแสว่า พ่อของน้องฟ้าน่าจะอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม จึงได้ส่งภาพพ่อน้องฟ้า ผ่านทางกลุ่มไลน์ตำรวจ เพื่อให้สืบสวนหาบิดาน้องฟ้า
วันที่ 8 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม ได้พบ ชายที่มีลักษณะคล้ายกับบิดาของน้องฟ้า กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ใกล้กับร้านทองแห่งหนึ่งในตัวอำเภอบรบือ จ.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบและได้เชิญตัวมาที่ สภ.บรบือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพ และส่งผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ให้กับน้องฟ้าได้ดู หลังจากที่ดูภาพแล้วน้องฟ้ายืนยันว่าเป็นบิดาของตนเองจริงๆ จากนั้น น้องฟ้าได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ มาที่ สภ.บรบือ เมื่อได้เห็นบิดาบังเกิดเกล้าน้องฟ้าดีใจถึงกับน้ำตาซึม สอบถามถึงการใช้ชีวิตของบิดาด้วยความเป็นห่วง ส่วนผู้บิดาก็มีความดีใจที่ได้พบบุตรสาวเช่นกัน
น.ส.สาวเกศรินทร์ ไชยโชค หรือน้องฟ้า เล่าถึง สาเหตุที่ต้องพลักพรากกันกับบิดาว่า ช่วงที่ตนอายุได้เพียง 5 ปี บิดาและมารดามีปัญหาหย่าร้างกัน ตนต้องไปอาศัยอยู่กับแม่ที่จังหวัดระยอง เรียนจบปวช. ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ชีวิตลำบากมาก จนต้องพักการเรียนไป ต่อมามีผู้แนะนำให้เข้าประกวดมิสอันเซ็นเซอร์ นิวส์ ไทยแลนด์ และได้ตำแหน่งรองอันดับ 3 พ่วงด้วยตำแหน่งนางงามผิวสวยสุขภาพดี และนางงามสู้ชีวิต ซึ่งตอนนี้ชีวิตเริ่มจะดีขึ้นมีงานติดต่องานเข้ามาคาดว่าจะมีรายได้มากขึ้น และทำให้ตนคิดถึงบิดาผู้ให้กำเนิดที่ไม่เห็นกันมานานกว่า 15 ปี
ตนจึงสอบถามกับทางญาติทราบว่าพ่อมีชีวิตที่แร้นแค้นเป็นคนเร่ร่อนขอทาน จึงอยากออกตามหาบิดาเพื่ออยากทดแทนบุพการีผู้ให้กำเนิด จึงได้ปรึกษาทางกองประกวด พี่เดซี่ จึงให้ลองประกาศตามหาผ่านทางเฟสบุค ซึ่งมีผู้หวังดีส่งรูปพร้อมข้อมูลมาให้มากมาย จนได้ข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีคนเคยเห็นพ่อเป็นคนเร่ร่อนขอทานที่ จ.ร้อยเอ็ด จึงเดินทางมาที่ร้อยเอ็ดแต่มาแล้วหาไม่เจอจึงลองแจ้งตำรวจให้ช่วยค้นหาก่อน เดินทางกลับกรุงเทพ และสุดท้ายตำรวจ สภ.บรบือ มหาสารคาม ก็แจ้งว่าพบบิดาที่อยู่ที่อ.บรบือ จึงรีบเดินทางมารับ จากที่ได้พบบิดาพบว่ามีอาการติดสุรา บางครั้งพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ตนจะพาบิดากลับไปยังกรุงเทพฯ พร้อมนำไปรักษาให้เลิกเหล้า ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายที่คอยแจ้งเบาะแส รวมถึงพลังโซเชี่ยล ที่ช่วยกันแชร์ข้อมูล ทำให้ตนได้เจอพ่อในที่สุด
ส่วน นายประมูล ไชยโชค พ่อน้องฟ้า เล่าว่า หลังจากที่เลิกรากับแม่ของน้องฟ้า ก็ตกงาน จึงใช้ชีวิตเป็นคนเร่ร่อนขอทานและเก็บของเก่าขายเป็นรายได้ประทังชีวิต ตนเองคิดว่าไม่มีความสามารถพอที่จะเลี้ยงน้องฟ้า จึงขอเดินทางคนเดียวไม่อยากเอาน้องฟ้ามาลำบากด้วย ตนปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่นมาเกือบ 15 ปี ซึ่งตนเองมาอยู่ที่ อ.บรบือได้ 2 วันแล้ว กะว่าวันพรุ่งนี้จะขี่จักรยานเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ไปขอทานที่ตลาดแวงน่าง และจะปั่นจักรยานไปเรื่อย ๆ เข้าอำเภอวาปีปทุม และไปต่อที่จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าลูกสาวตามหา พ่อได้เจอลูกสาวก็รู้สึกดีใจมาก ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอลูกอีก
พ.ต.ท.ยงยุทธ วรสาร สวป. สภ.บรบือ เปิดเผยว่า หลังได้รับข้อมูลผ่านไลน์กลุ่มตำรวจ สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ว่าบิดาน้องฟ้า เดินทางเข้ามาอยู่ในพื้นที่ อ.บรบือ จึงแจ้งสายตรวจ และชุดสืบสวนเพื่อออกหาข่าว จนพบชายลักษณะเหมือนบิดาน้องฟ้า เมื่อสอบถามว่าเป็นบิดาน้องฟ้าจริง จึงได้รับตัวมาไว้ที่ สภ.บรบือ ก่อนที่จะโทรแจ้งน้องฟ้าเดินทางมารับตัว รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากใช้เวลาอยู่บน สภ.บรบือ ไม่นาน น้องฟ้าได้รับบิดา ขึ้นรถเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยความชื่นมื่น
ทีมา => http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1446969934