จากกรณีการเสียชีวิตของพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ผูกคอเสียชีวิต ในเรือนจำชั่วคราว กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11
เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามการส่งศพ มาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยพล.ต.ต.นายแพทย์ พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในการนำศพออกมาชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนของทางการแพทย์ และปฏิบัติต่อศพทุกศพอย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับชายคนสนิท พ.ต.ต.ปรากรม เนื่องจากมีการแอบอ้างเบื้องสูงพยายามจะให้มีการรับคนสนิทเข้ารับราชการในตำแหน่งรองสารวัตรกองบังคับการปราบปราม
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เชิญตัวบุตรของนายเรืองศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์ผู้ต้องหาคดีครอบครองซากสัคว์ป่าคุ้มครอง 1 ในผู้ต้องหาเครือข่ายการกระทำความผิดของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาสอบสวน หลังพบกระเป๋าเป้ที่นายเรืองศักดิ์ใช้ประจำอยู่ในห้องของพ.ต.ต.ปรากรม
ทั้งนี้มีรายงานว่าในส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินของ พ.ต.ต.ปรากรม เจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงเมื่อพบว่า พ.ต.ต.ปรากรมมีห้องชุดอยู่ถึง 26 ห้อง ที่อาคารลาเมซอง ซอยพหลโยธิน 24 ซึ่งบางห้องก็เป็นห้องใหญ่มาก โดยพยานให้การว่า พ.ต.ต.ปรากรม มักจะนำรถป้ายทะเบียนตราโล่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาจอดประจำ นอกจากนี้ในส่วนการตรวจค้นสำนักงานนิติบุคคลลาเมซอง ยังพบสำเนาใบฝากเงินรวมกันแล้วกว่า 5 ล้านบาท ตำรวจจึงสันนิษฐานว่า เจ้าตัวน่าจะรู้ว่าจะถูกทลายเครือข่าย จึงได้โอนเงินเข้าบัญชี 2 วัน รวมกว่า 5 ล้าน 1 แสนบาท
ส่วน กรณีมีข่าวว่า นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง หนึ่งในผู้ต้องขังคดี 112 เสียชีวิตอีกราย นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า นายสุริยัน ยังมีอาการปกติ ถูกขังอยู่ที่เรือนจำชั่วคราว มทบ.11 เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าดูแลตลอด 24 ชม.ตามหน้าที่ ไม่เป็นดังข่าวลือ
ทีมา => http://news.sanook.com/1888706/